ฟิล์มกรองแสง (Window Film) คือ ฟิล์มลามิเนต หรือ พลาสติกลามิเนต ที่ผลิตมาจากแผ่นโพลีเอสเตอร์ มีคุณสมบัติเหนียว บางเรียบ ใส ไร้รอยย่น ยืดหยุ่นน้อย มีความทนทานต่อสภาพอากาศ สามารถยึดเกาะกับเนื้อกระจกได้อย่างเรียบสนิท โดยใช้กาวที่มีความบางใสเป็นตัวเชื่อม โดยในแผ่นโพลีเอสเตอร์จะมีส่วนผสมของสารกันความร้อน ที่ช่วยลดความร้อน ลดรังสีอินฟราเรด และรังสียูวีจากภายนอกที่จะเข้ามาในห้องโดยสารได้เป็นอย่างดี โดยทั่วไปจะมี 4 ชนิด ดังนี้
1. ฟิล์มแบบนาโน
ฟิล์มแบบนาโน (Nano Window Films) เป็นฟิล์มที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่ ใช้อนุภาคนาโน (อนุภาคขนาด 10−9 นาโนเมตร) เคลือบเนื้อฟิล์มแทนโลหะ ทำให้ฟิล์มประเภทนี้มีคุณสมบัติเด่นหลายประการ สามารถป้องกันรังสีความร้อนได้ดีเยี่ยม เนื้อฟิล์มจะใสเคลียร์ ไม่สะท้อนแสง ทำให้ทัศนวิสัยดีกว่าฟิล์มทั่ว ๆไปและก็มีความทนทานมากกว่า อายุการใช้งานประมาณ 7-15 ปี
ซึ่งเป็นฟิล์มชนิดนี้ เป็นชนิดที่ทีมงานติดฟิล์มกรองแสง กรุงเทพฯ ของเราแนะนำ*
2. ฟิล์มย้อมสี
ฟิล์มย้อมสี เป็นฟิล์มที่มีคุณสมบัติในการลดแสงสว่างเท่านั้น ไม่สามารถรลดความร้อนได้ หรืออาจจะลดได้เพียงเล็กน้อย เมื่อมีการใช้งานไปสักระยะหนึ่งฟิล์มจะเปลี่ยนสีเป็นสีม่วง นั่นหมายความว่าฟิล์มเริ่มเสื่อมคุณภาพ ทำให้กระจกขาดความสวยงาม ปกติอายุการใช้งานไม่เกิน 3 ปี
3. ฟิล์มแบบฉาบไอโลหะ
ฟิล์มแบบฉาบไอโลหะ (Metallized Evaporation Window Films) หรือที่เรียกกันทั่ว ๆไปว่า “ฟิล์มปรอท” ฟิล์มแบบนี้ จะถูกเคลือบผิวด้วยไอโลหะประเภทต่าง ๆ เช่น อลูมิเนียม เป็นต้น ทำให้สามารถกันรังสีความร้อนได้มากพอสมควร ผิวฟิล์มจะมีความมันเงา สะท้อนแสง ให้ความเป็นส่วนตัว เป็นที่นิยมในตลาดฟิล์มกรองแสงและกลุ่มคนแต่งรถ อายุการใช้งานประมาณ 5-7 ปี
4. ฟิล์มแบบเคลือบอนุภาคโลหะ
ฟิล์มแบบเคลือบอนุภาคโลหะ (Metal Sputtering Window Films) กระบวนผลิตการจะคล้าย ๆ ฟิล์มแบบฉาบไอโลหะ แต่จะฉาบโลหะด้วยวิธี sputtering ทำให้ชั้นโลหะที่ฉาบนั้นจะเรียงตัวบางกว่า ส่งผลให้ฟิล์มเงาน้อยกว่า มีความใส และสามารถป้องกันรังสีความร้อนได้สูง ทำให้ฟิล์มประเภทนี้ราคาแพงมากด้วยเช่นเดียวกัน อายุการใช้งานประมาณ 5-7 ปี